ประวัติความเป็นมา

กรมส่งเสริมการเรียนรู้

กรมส่งเสริมการเรียนรู้Department of Learning Encouragement 

กรมการศึกษานอกโรงเรียน

ต่อมา ได้มีการขยายโอกาสการศึกษาผู้ใหญ่อย่างกว้างขวางในปี 2513-2523รัฐบาลจึงได้ยกฐานะกองการศึกษาผู้ใหญ่ ขึ้นเป็น “กรมการศึกษานอกโรงเรียน” ขึ้น เพื่อจัดการศึกษานอกโรงเรียนสำหรับประชาชนในวันที่ 24 มีนาคม 2522

สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัรยาศัย

จนกระทั่งในปี w.ศ. 2545 ได้มีการปฏิรูประบบราชการ และมีการยุบรวมกรมต่าง ๆของกระทรวงจากเดิม 14 กรม เหลือเพียง 5 สำนักงาน ทำให้ กรมการศึกษานอกโรงเรียน ถูกยุบรวมเป็นสำนักงานบริหารงนการศึกษานอกโรงเรียน สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการต่อมาตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัยาศัย พุทธศักราช 2551 สำนักฯจึงปรับภารกิจเป็นสำนักงานงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

กระทั่งวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2566 ราชกิจจานุบกษาได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติการส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 โดยมีสระสำคัญคือการยกเลิกพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 และยกฐานะ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็น กรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นไป 60วัน หรือตรงกับวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2566
ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 เผยแพร่พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และให้ยกเลิกพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยพ.ศ. 2551 โดยยกระดับจากสำนักงาน กศน. เป็น “กรมส่งเสริมการเรียนรู้” มีหน้าที่จัด ส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ 3 รูปแบบ คือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง และ

การเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ

พระราชบัญญัติฉบับนี้ มี 36 มาตรา

  1. 1. เหตุผลมีกฎหมายจากมาตรา 54 วรรคสาม ประกอบกับมาตรา 258 จ.ด้านการศึกษา (4) ของ
  2. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
  3. 2.พระราชบัญญัติฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนบุคคลให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ
  4. อารมณ์ สังคมแลสติปัญญา เป็นคนดี มีวินัย รู้จักสิทธิควบคู่กับหน้าที่และความรับผิดชอบ

ประชาชนได้ประโยชน์อะไร ?

1. ประชาชนรับรู้ถึงความรับผิดชอบจาก “กรม” หน่วยงานราชการที่จัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้ให้แก่ตน
2. ประชาชนมีทางออกและทางเลือกในการเรียนรู้ เพื่อการพึ่งพาตนเองและการมีงานทำ
3. ทุกคนได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้ ทั้ง 3 รูปแบบ
1) การเรียนรู้ตลอดชีวิต
2) การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง
3) การเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ
– ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
– ระดับสูงกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4. ประชาชนเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกรูปแบบ ทุกที่ ทุกเวลา โดยการจัดส่งเสริม และสนับสนุนของกรม
5. การเรียนรู้ที่จัด ส่งเสริม และสนับสนุน โดย “กรม” ที่ไม่เลือกปฏิบัติ ต่อคนพิการ หรือบุคคลซึ่งมีความต้องการจำเป็นพิเศษ
6. ประชาชนได้รับโอกสเข้าถึงระบบสะสมความรู้ การเทียบโอน และการเทียบเคียงผลการเรียนเพื่อการได้วุฒิการศึกษา

องค์กรได้ประโยชน์อะไร ?

1. การบริหารจัดการ “กรม” โดย “อธิบดี” แบบนิติบุคคล มีความคล่องตัวและชัดเจน
2. เปิดโอกาสสร้างความร่วมมือกับภาคีเครื่อข่าย เพื่อเข้ามาร่วมจัดส่งเสริม และสนับสนุน ให้แก่กรม และหน่วยงานในสังกัดได้อย่างหลากหลายและชัดเจน
3. ได้ทบทวนและกำหนดภารกิจหน่วยงานทุกระดับให้มีความชัดเจนและไม่ช้ำซ้อน
4. ได้จัดตั้งศูนย์หรือสถาบันเฉพาะด้าน หรือเฉพาะกิจการเพิ่มขึ้นตามความจำเป็น
5. ได้ปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ให้มีประสิทธิภาพและมีระบบยิ่งขึ้น
6. การบริหารโยบายงบประมาณมีการพัฒนาและเพิ่มเติมในอนาคต สอดคล้องระหว่างภาระงานกับงบประมาณค่าใช้จ่าย
7.การบริหารทรัพยากรบุคคล มีการพัฒนาและการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

บุคลากรสำนักงาน กศน. ได้ประโยชน์อะไร ?

1. ภาระงานของบุคลากรได้รับการทบทวนและพัฒนาอย่างสอดคล้องระหว่างปริมาณคนกับปริมาณงาน
2. ได้ทบทวนตำแหน่ง ค่าตอบแทน วิทยญานะของบุคลากรเพื่อการยกระดับ
3. ยกระดับการบริหารจัดการความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพของบุคลากรทุกสายงาน
4. การปรับปรุงหรือกำหนดตำแหน่งขึ้นใหม่ เพื่อการปฏิบัติงานอย่างสอดคล้องกับบริบทในความรับผิดหอม

กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้ประกาศตั้งศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเชียงราย สังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียนเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2523 แล้วมีผลบังคับใช้วันที่ 24 มีนาคม 2524 เป็นต้นไป โดยรวมโรงเรียนฝีกฝนอาชีพเคลื่อนที่ 7 โรงเรียนผู้ใหญ่ห้องสมุดประชาชนจังหวัดและห้องสมุดประชาชนอำเภอ งานการศึกษาผู้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็จ งานที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน และงานโสตทัศนศึกษา กรมการศึกษานอกโรงเรียนจัดสรรงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเชียงราย จำนวน 3,200,000.- บาท อยู่บริเวณเกาะลอย พื้นที่ราชพัสดุ เนื้อที่ 11 ไร่ 2 งาน ตั้งอยู่เลขที่ 421 หมู่ที่ 21 ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ตามหนังสืออนุญาตของกรมธนารักษ์ ที่ กค 0405/600 เชียงราย ลงวันที่ 1 กันยายน 2521 แปลงหมายเลข 3997

                        ต่อมาได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 เมื่วันที่ 4 มีนาคม 2551 ส่งผลให้ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเชียงราย มีชื่อใหม่ว่า “สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเชียงราย” (สำนักงานา กศน.จังหวัดเชียงราย) ขึ้นตรงกับสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

จากนั้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 เผยแพร่พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และให้ยกเลิกพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 โดยยกระดับจากสำนักงาน กศน. เป็น “กรมส่งเสริมการเรียนรู้” มีหน้าที่จัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้ 3 รูปแบบ คือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง และการเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ โดยยกระดับจากสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) ให้เป็น “กรมส่งเสริมการเรียนรู้” มีหน้าที่จัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้  สำนักงาน กศน. จังหวัดเชียงราย  จึงได้เปลี่ยนเป็น สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดเชียงราย ในวันที่  18  พฤษภาคม  2566

สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2545 ได้มีการปฏิรูประบบราชการ และมีการยุบรวมกรมต่าง ๆ ของกระทรวงจากเดิม 14 กรม เหลือเพียง 5 สำนักงาน ทำให้ กรมการศึกษานอกโรงเรียน ถูกยุบรวมเป็นสำนักงานบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พุทธศักราช 2551 สำนักฯ จึงปรับภารกิจเป็นสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

กรมส่งเสริมการเรียนรู้

กระทั่งวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2566 ราชกิจจานุบกษาได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติการส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 โดยมีสระสำคัญคือการยกเลิกพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 และยกฐานะ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็น กรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นไป 60วัน หรือตรงกับวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2566
ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 เผยแพร่พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และให้ยกเลิกพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยพ.ศ. 2551 โดยยกระดับจากสำนักงาน กศน. เป็น “กรมส่งเสริมการเรียนรู้” มีหน้าที่จัด ส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ 3 รูปแบบ คือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง และ การเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ

ประโยชน์ของพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566

ประโยชน์ของพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566

กรมส่งเสริมการเรียนรู้

พระราชบัญญัติฉบับนี้ มี 36 มาตรา

  1. 1. เหตุผลมีกฎหมายจากมาตรา 54 วรรคสาม ประกอบกับมาตรา 258 จ.ด้านการศึกษา (4) ของ
  2. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
  3. 2.พระราชบัญญัติฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนบุคคลให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ
  4. อารมณ์ สังคมแลสติปัญญา เป็นคนดี มีวินัย รู้จักสิทธิควบคู่กับหน้าที่และความรับผิดชอบ

ประชาชนได้ประโยชน์อะไร ?

1. ประชาชนรับรู้ถึงความรับผิดชอบจาก “กรม” หน่วยงานราชการที่จัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้ให้แก่ตน
2. ประชาชนมีทางออกและทางเลือกในการเรียนรู้ เพื่อการพึ่งพาตนเองและการมีงานทำ
3. ทุกคนได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้ ทั้ง 3 รูปแบบ
1) การเรียนรู้ตลอดชีวิต
2) การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง
3) การเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ
– ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
– ระดับสูงกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4. ประชาชนเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกรูปแบบ ทุกที่ ทุกเวลา โดยการจัดส่งเสริม และสนับสนุนของกรม
5. การเรียนรู้ที่จัด ส่งเสริม และสนับสนุน โดย “กรม” ที่ไม่เลือกปฏิบัติ ต่อคนพิการ หรือบุคคลซึ่งมีความต้องการจำเป็นพิเศษ
6. ประชาชนได้รับโอกสเข้าถึงระบบสะสมความรู้ การเทียบโอน และการเทียบเคียงผลการเรียนเพื่อการได้วุฒิการศึกษา

องค์กรได้ประโยชน์อะไร ?

1. การบริหารจัดการ “กรม” โดย “อธิบดี” แบบนิติบุคคล มีความคล่องตัวและชัดเจน
2. เปิดโอกาสสร้างความร่วมมือกับภาคีเครื่อข่าย เพื่อเข้ามาร่วมจัดส่งเสริม และสนับสนุน ให้แก่กรม และหน่วยงานในสังกัดได้อย่างหลากหลายและชัดเจน
3. ได้ทบทวนและกำหนดภารกิจหน่วยงานทุกระดับให้มีความชัดเจนและไม่ช้ำซ้อน
4. ได้จัดตั้งศูนย์หรือสถาบันเฉพาะด้าน หรือเฉพาะกิจการเพิ่มขึ้นตามความจำเป็น
5. ได้ปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ให้มีประสิทธิภาพและมีระบบยิ่งขึ้น
6. การบริหารโยบายงบประมาณมีการพัฒนาและเพิ่มเติมในอนาคต สอดคล้องระหว่างภาระงานกับงบประมาณค่าใช้จ่าย
7.การบริหารทรัพยากรบุคคล มีการพัฒนาและการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

บุคลากรสำนักงาน กศน. ได้ประโยชน์อะไร ?

1. ภาระงานของบุคลากรได้รับการทบทวนและพัฒนาอย่างสอดคล้องระหว่างปริมาณคนกับปริมาณงาน
2. ได้ทบทวนตำแหน่ง ค่าตอบแทน วิทยญานะของบุคลากรเพื่อการยกระดับ
3. ยกระดับการบริหารจัดการความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพของบุคลากรทุกสายงาน
4. การปรับปรุงหรือกำหนดตำแหน่งขึ้นใหม่ เพื่อการปฏิบัติงานอย่างสอดคล้องกับบริบทในความรับผิดหอม

กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้ประกาศตั้งศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเชียงราย สังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียนเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2523 แล้วมีผลบังคับใช้วันที่ 24 มีนาคม 2524 เป็นต้นไป โดยรวมโรงเรียนฝีกฝนอาชีพเคลื่อนที่ 7 โรงเรียนผู้ใหญ่ห้องสมุดประชาชนจังหวัดและห้องสมุดประชาชนอำเภอ งานการศึกษาผู้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็จ งานที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน และงานโสตทัศนศึกษา กรมการศึกษานอกโรงเรียนจัดสรรงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเชียงราย จำนวน 3,200,000.- บาท อยู่บริเวณเกาะลอย พื้นที่ราชพัสดุ เนื้อที่ 11 ไร่ 2 งาน ตั้งอยู่เลขที่ 421 หมู่ที่ 21 ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ตามหนังสืออนุญาตของกรมธนารักษ์ ที่ กค 0405/600 เชียงราย ลงวันที่ 1 กันยายน 2521 แปลงหมายเลข 3997

                        ต่อมาได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 เมื่วันที่ 4 มีนาคม 2551 ส่งผลให้ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเชียงราย มีชื่อใหม่ว่า “สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเชียงราย” (สำนักงานา กศน.จังหวัดเชียงราย) ขึ้นตรงกับสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

จากนั้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 เผยแพร่พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และให้ยกเลิกพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 โดยยกระดับจากสำนักงาน กศน. เป็น “กรมส่งเสริมการเรียนรู้” มีหน้าที่จัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้ 3 รูปแบบ คือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง และการเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ โดยยกระดับจากสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) ให้เป็น “กรมส่งเสริมการเรียนรู้” มีหน้าที่จัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้  สำนักงาน กศน. จังหวัดเชียงราย  จึงได้เปลี่ยนเป็น สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดเชียงราย ในวันที่  18  พฤษภาคม  2566